|
พัฒนาศักยภาพ สร้างสมรรถนะที่แท้จริง สู่โลกแห่งอนาคต
|
Develop potential, cultivate true competencies, for your future |
|
โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์ เปิดสอนนักเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยนำหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560 ของกระทรวงศึกษาธิการ มาปรับใช้ด้วยการ ผสมผสานการเรียนรู้เชิงรุกด้วยบูรณาการ สู่การพัฒนาสมรรถนะรอบด้าน นอกจากนี้ โรงเรียนได้เปิดสอนโครงการเน้นภาษาอังกฤษ (IEP: Intensive English Programe) ในทุกระดับชั้น |
|
หลักสูตรมีคุณภาพเพื่ออนาคตที่สดใส |
"คิดได้ ทำเป็น กล้าแสดงออก" |
เป้าหมายหลักในการจัดการเรียนการสอน คือ นักเรียนมีความสามารถ “คิดได้ ทำเป็น กล้าแสดงออก” อย่างเหมาะสม มีความเป็นผู้นำ และมีสมรรถนะรอบด้าน สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข |
คิดได้: มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ และแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีเหตุผลและสร้างสรรค์ |
ทำเป็น: มีความสามารถในการนำสิ่งที่คิด หรือสิ่งที่เรียนรู้มาปฏิบัติจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล |
กล้าแสดงออก: มีความมั่นใจในการนำเสนอความคิดเห็น ผลงานหรือความสามารถของตนเองต่อผู้อื่นได้อย่างเหมาะสมและสร้างสรรค์ |
|
กระบวนการจัดการเรียนการสอน |
หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum) |
หลักสูตรฐานสมรรถนะ เป็นแนวคิดการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการพัฒนานักเรียนให้เกิด สมรรถนะ (Competencies) หรือความสามารถที่แท้จริง ซึ่งประกอบด้วย ความรู้ (Knowledge) ทักษะ (Skills) และ เจตคติ (Attitudes) ที่จำเป็นต่อการนำไปปรับใช้ในชีวิตจริง การทำงาน หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|
 |
*ต่างจากหลักสูตรแบบดั้งเดิมที่เน้นการท่องจำเนื้อหาและประเมินผลจากการสอบ หลักสูตรฐานสมรรถนะจะเน้นว่านักเรียน "ทำอะไรได้" และ "นำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร" |
|
6 สมรรถนะหลัก มีดังนี้ |
 |
*สมรรถนะทั้ง 6 ด้านนี้จะทำงานร่วมกันและส่งเสริมซึ่งกันและกัน เพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และพัฒนาอย่างสมดุลและรอบด้าน พร้อมสำหรับการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 |
|
การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) |
โรงเรียนนำกระบวนการเรียนรู้แบบเชิงรุก(Active Learning) เข้ามาจัดการเรียนการสอนในทุกระดับชั้น ด้วยการบูรณาการในทุกรายวิชา เช่น การทำโครงงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบริบทและธรรมชาติของรายวิชานั้น ๆ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดสมรรถนะรอบด้านตามวัยอย่างเต็มศักยภาพโดยเน้นให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ "ลงมือทำ คิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา สร้างสรรค์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน" เพื่อให้เกิดความเข้าใจในเนื้อหาอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง |
|
ทำไม Active Learning ถึงสำคัญ ? |
- ส่งเสริมความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
- พัฒนาทักษะที่จำเป็น
- สร้างความกระตือรือร้นและแรงจูงใจ
- สร้างทักษะการเรียนรู้สิ่งใหม่ด้วยตนเอง
- จดจำได้ดีกว่า
|
ลักษณะสำคัญของ Active Learning |
- เน้นให้นักเรียนสร้างความรู้ด้วยตนเอง
- ส่งเสริมปฏิสัมพันธ์
- เปิดโอกาสให้นักเรียนสะท้อนคิด
- มีกระบวนการกลุ่ม
- มีการใช้เครื่องมือหรือสื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย
- เน้นการแก้ปัญหาหรือการทำภารกิจ
|
ตัวอย่าง: กิจกรรม Active Learning ที่นักเรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ |
- การทำโครงงาน (Project-Based Learning)
- การนำเสนอผลงาน (Presentation)
- การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)
- การระดมสมอง (Brainstorming)
- การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning)
- การทำผังความคิด (Mind Mapping)
- การเขียนบันทึกสะท้อนคิด (Reflective Journaling)
- การเรียนรู้จากกรณีศึกษา (Case Study)
- การแสดงบทบาทสมมติ (Role Play)
- เกมการเรียนรู้ (Learning Games)
|
|
กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ (Integrated Learning Process)
|
การจัดการเรียนรู้ที่ “เชื่อมโยงความรู้ ทักษะ และประสบการณ์” จากหลากหลายวิชา เพื่อให้นักเรียนสามารถ เข้าใจเนื้อหาได้อย่างลึกซึ้ง และ นำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
|
|
หลักการสำคัญของกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ |
- การเชื่อมโยง
-
การสร้างความหมาย
-
การลงมือปฏิบัติ
-
การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
-
การเรียนรู้จากประสบการณ์ |
รูปแบบของกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ |
- การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project-Based Learning)
- การเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning)
-
การเรียนรู้แบบข้ามกลุ่มสาระ (Interdisciplinary Learning)
- การเรียนรู้แบบสหวิทยาการ (Multidisciplinary Learning) |
ประโยชน์ของการเรียนรู้แบบบูรณาการ |
- ส่งเสริมความเข้าใจที่ลึกซึ้ง
-
พัฒนาทักษะที่จำเป็น
-
เพิ่มแรงจูงใจในการเรียนรู้
- เตรียมความพร้อมสู่โลกแห่งความเป็นจริง |
|
    |
|
|